ความแตกต่างของเนื้อผ้าและปกของสูท
คุณราชา: ว่าด้วยเรื่อง selvage (ริมผ้า) ประเทศจีน ประเทศไทยเราชอบย้อมแมว selvage เลยไม่ใช่ของแท้ แต่ผ้าที่มาจากอังกฤษกับผ้าที่มาจากอิตาลีจะเป็น salvage แท้ ทำให้ชุดสูทราคาแตกต่างกันแต่ต้องลองสังเกตเนื้อผ้าให้ดีๆ
อ.เอ๋: เราจะแยกได้ยังไงว่าผ้าตัดชุดสูทที่ใช้จริงหรือปลอม
คุณราชา: สำหรับผ้าที่ใช้ตัดสูทผู้ชายและตัดสูทผู้หญิง ให้ทดสอบเวลาเราเผา ผ้าที่สาธิตด้วยการเผาคือ selvage (ริมผ้า) ของที่ไม่เป็นธรรมชาติจะเป็นธุลี มันจะหายไปเลย แล้วเวลาเผามันจะมีกลิ่นด้วย บางร้านเขาก็มี gimmick ว่าเดี๋ยวฉันถามให้ดูเลยว่าของจริง เช่น ไหมเทียมกับไหมแท้จะใกล้เคียงกันมากเขาเลยต้องเผาให้ดู บางที่จะเพิ่มโพลีเอสเตอร์เข้าไปสัก 5% เพื่อให้ผ้ามันทนนิดนึง โพลีเอสเตอร์จะกันน้ำมากกว่า
อ.เอ๋: มาดูเรื่องของปกในการตัดสูทบ้าง จะมี 3 แบบ Notch Lapel (น็อตช์ ลาเพ็ล ปกสูทแบบป้าน), Peak Lapel (พี้ค ลาเพ็ล ปกสูทแบบชี้) และ Shawl Lapel (ชาวล์ ลาเพ็ล หรือปกกล้วย)
คุณราชา: Notch Lapel ถ้าเราอยากให้คนดูสูงขึ้นเราก็ต้องตัดสูทเท่ๆ ซึ่งทำให้เชฟรอนสูงขึ้นไปอีก ส่วน Peak Lapel เวลาคนเห็นมันจะเสริมให้มองขึ้นไปดูหน้าของคนใส่ ดีมากสำหรับคนที่พรีเซนต์งาน ส่วน Shawl Lapel ปกกล้วยหอม จะใช้สำหรับชุดทักซิโด้หรือชุดไปงาน White Thai Event ส่วนใหญ่ถ้าทักซิโด้สีดำ จะทำให้ตรงปกเป็นเงาๆ
ส่วนใหญ่คนที่ต้องการสูทแบบทางการ ก็จะมาตัดแบบ Notch Lapel ส่วนคนที่ชอบแต่งตัวแฟชั่นก็จะตัดแบบ Peak Lapel ร้านตัดสูทและร้านตัดสูทด่วนจะเข้าใจวิธีการตัดสูททั้ง2แบบ
อ.เอ๋: ปกที่เป็น Peak Lapel จะช่วยให้เราดู v-shape ขึ้น สูทผู้ชายหรือสูทผู้หญิงเมื่อใส่ดูเพรียวขึ้นและดูโมเดิร์นขึ้น ส่วนการจะทำให้ดูตัวสูงขึ้นจะต้องดูที่กระดุม ที่ต้องระวังคืออย่าทำให้ lapel ผอมไป ไม่งั้นจะดูเหมือนสูทเกาหลี ประมาณ 2 นิ้วครึ่งกำลังดี สำหรับผู้ชายไหล่กว้าง การตัดชุดสูทสามารถที่จะทำ Peak Lapel ให้กว้างได้
จุดที่บรรจบระหว่าง collar กับ lapel เรียกว่า gorge แล้วด้านขวาของ lapel ก็จะมีรังปก ส่วนชุดสูทผู้ชายต้องมีกระเป๋าเสมอ เอาไว้ใส่ pocketware ซึ่งต้องเป็นสีที่ contrast หรือสีตัดกัน pocketware มีไว้ใช้สำหรับผู้หญิง เป็นชุดสูทเท่ๆ ดังนั้นผู้ชายจะพกไว้สำหรับสาวๆ เวลาเขามีอะไรเปื้อนจะได้ยื่นให้ หรือเวลาผู้หญิงร้องไห้